ข่าวบันเทิง เป็นประกาศหน้าหนึ่งอยู่หลายวัน กับข่าวเพิกเฉยแม่ให้ไปอยู่วัดของตลกโปกฮาชื่อดัง " โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม" วันนี้เค้าได้ออกมาเปิดใจถึงสาเหตุของเรื่องต่างๆแบบละเอียดว่า....
ชีวิตในวัยเด็กเป็นยังไง
"ผมที่ไม่ได้ผูกพันกับมาตุรงค์เพราะผมไปคลอดที่เมืองกาญจน์จนถึงอายุ 7 ขวบ โดยที่เค้าไม่ได้เลี้ยงผม มีคุณยายแก่ๆเจ้าของแพเป็นคนเลี้ยง พอครบเจ็ดขวบยายก็ติดต่อให้แม่มา เพราะผมต้องเข้าสถานศึกษา หลังจากนั้นก็เอาผมไปฝากสถานศึกษาประจำ คือศึกษาสงเคราะห์พนมทวน อยู่ตั้งแต่ 7 ขวบ ต้องตื่นเช้าไปปลูกผัก เอาออกไปจัดจำหน่ายเพื่อหารายได้ ซักผ้าเองด้วยสบู่ก้อน เสื้อนักเรียนมีชุดเดียว รองเท้าไม่มี จนจบ ป.7 ถามว่าแม่มาเยี่ยมมั๊ย เด็กคนอื่นเดือนละครั้ง ของผมรออยู่ที่ศาลาว่าเมื่อไหร่แม่จะมา ก็ประมาณ 3 เดือนครั้ง มาอยู่กับแกจริงๆ ก็ตอนมาร่ำเรียนที่กรุงเทพ จนจบ ม.3 ประมาณ 3 ปีที่อยู่กับเค้า แล้วก็ไปตามหาพ่อ ไปอยู่กับพ่อ แล้วก็ไปเล่นลิเก จนมาเป็นตลกโปกฮาทุกวันนี้"
แล้วกับข่าวที่ว่าโป้งเหน่งทอดทิ้งแม่
"เหตุเดิมที่ บอกว่าเพิกเฉยคุณแม่เป็นเรื่องเข้าใจผิดนะครับ ผมไม่เคยตัดความสัมพันธ์แม่ผมหรอกครับ ข่าวบันเทิงพยานคนไหนที่ยืนยันว่าผมเอาแม่ผมไปตัดความสัมพันธ์ไว้ที่วัด ที่วัดนั้นผมยังไม่เคยเกือบไปเลยนะครับ สาเหตุที่คุณแม่ออกไปจากบ้าน ช่วงหลังที่เค้ามาอยู่กับผมได้เกือบปี แต่สาเหตุอะไรล่ะที่เค้ามาอยู่กับเรา เราต้องอยู่เลี้ยงดูเค้าเพราะเค้าเป็นแม่เรา ทุกๆครั้งที่เค้าออกไปจากนิวาสสถาน หนีออกไปผมก็ต้องไปรับ วันไหนถ้าผมไปทำงานผมก็จะให้ลูกชายไปรับกลับบ้าน
"แต่คนที่ทำไมถึงอยู่กับเราไม่ได้ ทำไมเค้าไม่ได้รับความสบาย ทำไมเค้าบอกว่าเค้าเข้าห้องน้ำก็เข้ายากแค้น ต้องฉี่ต้องอุจระใส่กระโถน มันมีเหตุเดิมหมดครับ แต่เรื่องแบบนี้เล็กๆน้อยๆบางทีมันเป็นเรื่องในตระกูล นอนบนบ้านให้อยู่บนนิวาสสถานกับกุลธิดา คนแก่แล้วเดินขึ้นเดินลง ล้มบ้างอะไรบ้าง ก็อยู่ไม่ได้ครับ เค้าขอไปอยู่หลังบ้าน เค้าขอนะครับ พูดกันนิรุกติชาวบ้านก็คือห้องที่ให้คนใช้อยู่ซึ่งมันก็จะมีของบ้างอะไรบ้าง วางอยู่ แกก็ไปบอกนักข่าวว่าไปนอนกับรองเท้า เอาไปทิ้งไว้หลังบ้าน แล้วหลังนิวาสสถานมันจะเดินเข้ามาในบ้านไม่ได้ แต่ห้องน้ำจะอยู่ในบ้าน ระหว่างที่แกจะเดินมาเข้าห้องน้ำแกเคยถ่ายอุจาระเรี่ยราดตามทางหลายครั้ง แล้ว ผมก็เลยบอกว่าแม่อึใส่กระโถนก็ได้มันไม่ได้แปลก มันสะดวกอย่างง่ายดายกว่า อันนี้คือเรื่องที่แกบอกว่าผมไม่ให้เข้าไปในนิวาสสถานผมขอแก้ข้อนี้ก่อน"
มีปากมีเสียงจริง
"ถูกต้องครับ มีคงที่ครับ แล้วที่แม่พูดกับเหยี่ยวข่าวไปว่าภริยาผมด่าคำหยาบๆคายๆ แต่จริงๆแล้วเค้าบอกว่าเค้าไม่เคยบอกเลยว่าเมียผมด่าแม่ เค้าไม่เคยบอกผมเลย พูดตรงๆเลยผมกับเมียอยู่ด้วยกันไม่เว้นเวลา จะไม่อยู่ตอนเดียวที่เค้าเข้าห้องน้ำ ข่าวบันเทิงทำไมผมเป็นลูกแล้วเมียมาด่าแม่หยาบๆคายๆ คนเป็นลูกทนได้หรอ มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ ที่ผมจะให้ภริยามายืนด่าแม่ผม"
ต่อจากนี้จะทำยังไง
"ต่อจากนี้ก็ผมได้ขอความเห็นกับพี่เป็ดแล้ว คงต้องตามใจเค้า ที่แกพูดว่าจะให้ผมมาอุปการะแก แล้วพาแกไปอยู่ที่บ้านยังไงแกก็ไม่กลับแน่นอน เค้าหนีหายออกไปเอง ก่อนหน้านี้ก่อนไปอยู่วัด เค้าก็หนีไปอยู่ที่อื่นอเนกที่มาแล้ว ก็ตามกลับมา"
แล้วครั้งนี้นานถึง 3 เดือนแล้วทำไมไม่ไปดูแม่เลย
"ผมถามหน่อยว่าคุณรู้ไหมว่าแม่คุณอยู่ไหน ผมรู้ครับ แต่ผมทำงานเพียงลำพัง ผมยุ่ง ผมวุ่นวายมาก ตอนนี้ชีพผมกำลังสับสนมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะไปหาครับ หนึ่งที่แม่เรียกร้องมาอยากให้ผมไปขอโทษ ขอโทษที่ผมไม่รับที่บอกว่าเค้าไม่ได้เป็นแม่ สองที่เค้าขอไปอยู่บ้านพักคนชราบางแค ซึ่งตอนนั้นถ้าไม่มีลูกหลานมาเซ็นต์ทางบางแคไม่สามารถที่รับไว้ได้ เพราะจะหาว่าไปย่องเบาแม่มา แต่ถ้าพรุ่งนี้แกบอกว่าแกจะไปอยู่ผมก็จะไปเซ็นต์ ให้ทางบ้านบางแคมารับแกไป ข่าวบันเทิงแต่เมื่อวานได้ข่าวมาว่าแกจะขอเงินซักก้อนนึง แกอยากจะไปซื้อนิวาสสถาน ผมถามว่าคนพระชนมพรรษาป่านนั้นจะไปซื้อบ้าน ใครจะดูแล แกพูดว่าอยากได้เงินจากผม 2 แสน ถ้าอยากได้ผมไปกู้หนี้ยืมสินได้ แต่ตอนนี้ผมไม่มีตังค์หรอกครับ ผมต้องรับผิดชอบตระกูลผม
ครั้งล่าสุดที่เค้าไล่ผมออกจากบ้านตอนอายุ 18 ปี ตอนนี้ 48 ปี ผมมีภริยาตอนพระชนมพรรษา 20 ปี กี่ปีแล้วครับที่ผมอยู่กับเมียผม ผมรักครับ ไม่มีกิน อดยาก ลำบาก กินข้าวกับน้ำปลาก็อยู่กันมาแล้ว เค้าก็ไม่ทิ้งผมไปไหน แต่แม่ผมก็รักครับ แต่ที่เค้าทำผมเค้าเห็นผมเป็นลูกหรือเปล่า คนเราทุกคนมันมีความน้อยเนื้อต่ำใจทุกคนแหละครับ ในมุมของผมมันอเนกเรื่อง แต่ผมไม่พูด ไม่ว่าผมผิด หรือแม่ผิด แวดวงจะตัดสินเอง ทุกอย่างผมรับผิดคนเดียว"
สาเหตุที่หนีออกจากบ้านตอนอายุ 18 ปี
"แม่ผมจะให้ เลิกรากับภริยา พูดง่ายๆว่าแม่ผมไม่ชอบเมีย แต่ลูกผมอยู่ในท้องผมเลิกรากับเมียผมไม่ได้ ผมก็เลยปลงใจ ในเมื่อเค้าไล่เมียผม ผมก็ตัดสินใจออกจากบ้านตั้งแต่วันนั้น"
อยากบอกอะไรกับสังคมบ้าง
"อยากบอกว่านี่มันเรื่องตระกูล เป็นเรื่องใย ผมไม่โทษเหยี่ยวข่าวนะครับ ผมถามหน่อยในแวดวงเรื่องตระกูลใครไม่มีบ้าง เรื่องแม่ผัวลูกสะใภ้ แต่ถ้าผมไม่ได้เป็นโป๊งเหน่ง ทุกวันนี้ นักข่าวจะมาสัมภาษณ์ผมไหมครับ ข่าวบันเทิงแต่ผมคิดว่าเรื่องของผมมันเป็นความผิดครั้งแรก ลางหนอาจมีคนมองว่าผมไล่แม่ไปอยู่วัด ผมไม่ได้ไล่นะครับ แกหนีออกไปจะสิบหนแล้ว"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น